99 สุดยอดพระเกจิอาจารย์

หลวงปู่ศิลา สิริจันโท  ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา จังหวัดกาฬสินธุิ์ 

 

 

99 สุดยอดพระเกจิ วันนี้จะขอนำเกียรติประวัติ ของพระเกจิผู้มากด้วยเมตตา ที่พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลแห่กันไปกราบไหว้เป็นจำนวนมาก พระเกจิมากเมตตารูปนั้นก็คือหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา จ.กาฬสินธุิ์          

หลวงปู่ศิลา สิริจันโท อายุ 79 ปี   28 พรรษา  สริรวมบวชในร่มกาสาวพัตร 62 ปี เณร 8 ปี พระ 54 ปี 

หลวงปู่ศิลา สิริจันโท หรือศิลา นิลจันทร์ 

เกิดวันที่ 14 ตุลาคม 2488  ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 11 ปีระกา 

ณ บ้านเบิด ต.เบิด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ 

เป็นบุตรลำดับที่ 4 ของนายแก่น นางน้อย นิลจันทร์ ประกอบอาชีพ ทำนา ในปี 2488 (ปีเกิด) 

บิดามารดา ได้อพยพหนีความแห้งแล้ง ทุรกันดาร 

มาอยู่ บ.ส้อง ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ 

ต่อมาในปี 2494 ได้ย้ายภูมิลำเนามาอยู่บ้านเกิดมารดา คือ บ. ธาตุประทับ (บ. ยางกระธาตุ) อ. เชียงขวัญ จ. ร้อยเอ็ด        

พ.ศ.2500 – 2515 จำพรรษาอยู่วัดบูรพาภิราม จ. ร้อยเอ็ด 

- พ.ศ.2500 (กึ่งพุทธกาล) อายุ 12 ปี บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดธาตุประทับ (มหานิกาย) มีพระอุปัชฌาย์(พิมพ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ติดตามครูบาอาจารย์ ออกร่วมคณะธุดงค์ ไปนมัสการพระธาตุพนม ระหว่างเดินธุดงค์ มีโอกาสอุปฐากพระมหาเถระฝ่ายอรัญวาสี รูปสำคัญในสายพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต คือพระครูสัลขันธ์สังวรณ์ (อ่อนสี สุเมโธ)ที่ จ. มุกดาหาร และได้รับคำสอน ผญาธรรม(คำสอนอิสาน)จากพระธรรมราชานุวัตร (แก้ว กันโตภาโส) อดีตเจ้าอาวาสพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

- พ.ศ.2500 อายุ 12 ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี

- พ.ศ.2501 อายุ 13 ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท (เอกสารหาย)

- พ.ศ.2503 อายุ 15 ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก

- พ.ศ.2506 อายุ 18 ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเปรียญสามประโยค

- พ.ศ.2507 อายุ 19 ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเปรียญธรรมสี่ประโยค

- พ.ศ.2509 อายุย่าง 21 ปี อุปสมบท ณ. พัทธสีมา วัดบูรพาภิราม (มหานิกาย) อ. เมือง จ.ร้อยเอ็ด มีท่านเจ้าคุณพระสิริวุฒิเมธี เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์

- พ.ศ.2510 เป็นครูสอนปริยัติธรรม วัดบูรพาภิราม

- พ.ศ.2510 อายุ 21ปี พรรษา1 สอบไล่ได้เปรียญธรรมห้าประโยค

- พ.ศ.2515 อายุ 26 ปี พรรษา6 สอบไล่ได้เปรียญธรรมหกประโยค

ในปี 2516 นี้เอง ท่านเจ้าคุณพระสิริวุฒิเมธี มีปรารภจะให้พระมหาศิลา สิริจันโท (ขณะนั้น)ไปดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอหนองพอก โดยให้พระมหาศิลา สิริจันโท (ขณะนั้น) ไปอยู่วัดนิคมคณาราม  เพื่อสอนพระปริยัติธรรม เมื่อพระมหาศิลา สิริจันโท (ขณะนั้น) ทราบปรารภของพระมหาเถระผู้ใหญ่  จึงหาทางเลี่ยงปลีกวิเวกไปอยู่จำพรรษาที่วัดหนองดู่ บ้านหนองดู่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ไปเป็นครูสอนปริยัติธรรมวัดหนองดู่นี้เอง ใกล้กับวัดสันติวิหาร อันมีพระอาจารย์สมาน ธัมมรักขิตโต เป็นเจ้าอาวาส ความวิริยะอุตสาหะของพระมหาศิลา สิริจันโท (ขณะนั้น) ตั้งแต่ช่วงสามเณรถึง พ.ศ.2516 นี้ ตามธรรมเนียมการศึกษานอกจากเรียนพระปริยัติธรรมแล้ว ยังมุ่งศึกษาตามขนบธรรมเนียมประเพณีนิยมแบบพระสงฆ์สามเณรในภาคอีสานคืออักษรธรรม อักษรขอม อักษรไทยน้อย (อักษรโบราณ) เพื่อศึกษามูลกัจจายน์ให้แตกฉาน ความรู้ทั้งทางโลก และทางธรรม สรรพวิชาอาคม ยารักษาโรค โหราศาสตร์ล้วนถูกบันทึก ไว้ในใบลานทั้งสิ้น 

หลวงปู่ศิลา สิริจินโท มีความแตกฉาน มูลกิจจายน์ ประกอบกับสรรพวิชาจนเป็นที่กล่าวขานถึงในยุคนั้น เหตุการณ์ที่วัดสันติวิหาร ทำให้หลวงปู่ศิลา สิริจันโท เป็นที่นับถือในเรื่องการบำรุงขวัญกำลังใจแก่ศิษยานุศิษย์คือ เรื่องตะกรุดคอหมา (ตะกรุดปลากระป๋อง) เนื่องด้วยในยุคนั้น ระบบความคิดของสิทธิคอมมูน ระบาดหนัก เครี่องรางของขลังจึงเป็นสิ่งสำคัญ ประกอบกำลังใจแก่ผู้คน ในยามหวาดผวา

สิ่งสำคัญยิ่งที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.2515 ที่ควรจะกล่าวถึงแสดงถึงความกตัญญูต่อสถาบันพระกษัตริย์ หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ได้รวบรวมสรรพวิชาที่ร่ำเรียนมาทั้งปวงเขียนบรรจุลงบนผืนผ้าจำนวน 5 ผืน และได้คัดเลือกผืนที่งามที่สุดจำนวน 2 ผืน ขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ตามเอกสารทูลเกล้าฯ ผ่านกรมสื่อสารทหารอากาศดอนเมือง ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2515 โดย พลอากาศเอกหม่อมราชวงศ์ เสริม สุขสวัสดิ์ เจ้ากรมสื่อสารทหารอากาศเป็นผู้ลงนามหนังสือและพลเรือเอกหม่อมเจ้ากาฬวรรณดิธ ดิสกุล เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าถวาย ปัจจุบัน 1ใน5 ผืนที่เหลือถูกขนานนามว่า "มหายันต์" 

หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ออกจาริกธุดงค์ในช่วงลัทธิความคิดระบบคอมมูนแพร่หลายในช่วงนั้นแถบริมโขง ออกจาริกธุดงค์ในเขตนั้น พันตำรวจโทไพทูลย์  คงคูณ นิมนต์หลวงปู่ศิลา สิริจันโท หนีไปอยู่หลบลัทธิคอมมูนในถ้ำฝั่งโขง แถบ อ.สังคม จ.หนองคาย และออกจาริกธุดงค์ต่อถึงเขต อ.ปากชม จ.เลย 

เมื่อเหตุการณ์สงบหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ได้กลับมาวัดธาตุประทับ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด อีกครั้ง ในกาลครั้งนั้น พระหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ได้รับการวิงวอนจากญาติให้ลาสิกขาเพื่อออกมาเป็นครูผู้ช่วยสอนที่โรงเรียนธาตุประทับด้วยว่ามารดารวมถึงญาติผู้ใหญ่ป่วยหนักเป็นเวลา 1 ปี 

ในประวัติช่วงนี้เองพ.ศ.2522 จากผู้อาวุโส  ครูศิลา ทำใจไม่ได้เมื่อต้องตี(ไม้เรียว)ในการสอนนักเรียน ครูศิลาจึงเกิดความสลดสังเวช หวนกลับเข้าอุปสมบทอีกครั้งในปีเดียวกัน หลังญาติผู้ใหญ่ได้เสียชีวิตลง ซึ่งหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ถือเป็นกำลังหลักของครอบครัวในความขัดสนตามสังคมชนบท ณ พัทธสีมา วัดมาลุคาวนาราม  อ.ธวัธบุรี จ.ร้อยเอ็ด มีพระอุปัชฌาย์เป  เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาสุริยจิตโต 

หลังอุปสมบทช่วงปี 2522-2539 หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ได้ไปพำนัก วัดโนนเดื่อ บ.โนนเดื่อ อ.ธวัธบุรี จ.ร้อยเอ็ด สลับกับวัดธาตุประทับ บ.ธาตุประทับ อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด เรื่อยมา 

ปี 2539 เหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น คือหลังมารดาเสียชีวิตไป พี่สาวของหลวงปู่ศิลา สิริจันโท เป็นเสาหลักครอบครัวแทนพ่อแม่ได้ล้มป่วยลงอย่างหนักประกอบกับครอบครัวของหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ไม่ได้สมบูรณ์อย่างบุคคลทั่วไปภาระหน้าที่สำคัญในทางโลกจึงย้อนกลับมาหาท่านอีกครั้ง การลาสิกขาครั้งนี้ เป็นเวลา 8 เดือนในการออกมาจัดการภาระต่างๆเช่น การดูแลผู้ป่วย การหาเลี้ยงครอบครัวในยามยาก การเกี่ยวข้าวแล้วเสร็จ จวบจนเสร็จงานศพพี่สาวของท่าน 

หลวงปู่ศิลา สิริจันโท จึงกลับเข้าอุปสมบททันที ในวันที่ 22 ธันวาคม 2539 ณ พัทธสีมาวัดแสงประทีป โดยมีพระครูวิธานสมณกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ พำนัก ณ วัดธาตุประทับ สลับกับการออกจาริกธุดงค์ บ.พานเหมือน อ.เมือง จ.อุดรธานี 

ปี2559 หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ออกจาริกไปบ้านหนองแซง ต.แจ้ง  อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ

ปี 2559 หลวงปู่ศิลา  สิริจันโท หลังโปรดโยมอุปฐาก (แม่เข็ม) หลวงปู่ได้รับนิมนต์โดยพ่อใหญ่ก้อง ให้จำพรรษา ณ ป่าช้าม่วงนา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์

ปี 2562 - 2565 ชื่อเสียงหลวงปู่ศิลา  สิริจันโท เป็นที่นับถือแพร่หลาย จึงได้รับนิมนต์จาก พระครูสุชานโพธิคุณ วัดโพธิ์ศรีสะอาด ให้สร้างเสนาสนะสงฆ์ (สวนสงฆ์) ภายในที่ธรณีสงฆ์ของวัดโพธิ์ศรีสะอาด ให้เจริญรุ่งเรืองแก่บวรพุทธศาสนา เป็นที่พึ่งพาทางใจของศาสนิกชน

ปี 2565 หลวงปู่มีอาการอาพาธด้วยโรคหัวใจขาดเลือด  พักรักษาตัว ณ เสนาสนะสงฆ์ พระธาตุจอมศรีฯ จ.มหาสาคามและได้ยัติทำทัฬหีกรรมคณะธรรมยุติสังกัดวัดบึงพระลานชัย ดำรงตำแหน่งประธานสงฆ์วัดพระธาตุหมื่นหิน อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และพักรักษาตัว ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท 

    หลายโครงการที่หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ได้เมตตาช่วยเหลือเมตตาสร้างให้เป็นประโยชน์แก่สาธารณชน เพื่อคนทั้งปวงได้ใช้สอยบรรเทาทุกข์ภัย    ทั้งด้านการศาสนา การโรงพยาบาล การศึกษาพระเณรตลอดจนนักเรียนนักศึกษา และด้านสังคมรวมกว่าร้อยล้านบาท

  ปี 2564 หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ได้รับการตั้งเป็นพระครูฐานานุกรม ใน พระพรมวชิรโสภณ วัดบึงพระลานชัย ที่ พระครูปลัดวชิรโสภณญาณ วิมลศีลาจารศิษฏ์ ไพศาลศาสนกิจจาทร 

ปัจจุบัน หลวงปู่ต้องรักษาตัวอาการโรคหัวใจขาดเลือด สถานที่ควรใกล้ โรงพยาบาล  หลวงปู่ศิลา สิริจันโท จึงได้ พำนักในที่ธรณีสงฆ์ ธรรมอุทยาน สังกัดวัดพระธาตุหมื่นหิน   ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ถนน.สี่เลน กาฬสินธุ์ - มุกดาหาร บ.แกเปะ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์


 ขอขอบคุณข้อมูลโดย ชนะวุธ อุทโท

 ข่าวโดยไผ่ บ่อไร่


Visitors: 587,933