ช้างป่า ยะลา

ยะลาช้างป่าบุกแนวชายแดนไทยชาวบ้านเจอเตลิดหนีหลงป่า 4วันล่าสุดเข้าทำลายทรัพย์สินชาวบ้านในเบตง

ยะลา – ฝ่ายปกครองอำเภอเบตง ลงพื้นที่ค้นหาคนพลัดหลงป่าหลังจากโขลงช้างป่าเตลิดหาย 4 วันก่อนพบตัวล่าสุดฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบสภาพความเสียหายจากช้างป่า บุกทำลายทรัพย์สินของราษฎร ในพื้นที่ตำบลธารน้ำทิพย์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลาเร่งหามาตรการป้องกัน

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เวลา 14.00 น. นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง มอบหมายให้ นายฐิศิรักน์ ห่อหุ้ม ปลัดหัวหน้าชุดคุ้มครองตำบลธารน้ำทิพย์ พร้อมด้วย นายสุขสรรค์ วุฒิพิทักษ์ศักดิ์ รองนายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ นายอับดุลรามัน คอแดะ กำนันตำบลธารน้ำทิพย์ เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเบตง เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ยล.3 และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลธารน้ำทิพย์ ร่วมตรวจสอบกรณี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีช้างป่าได้ออกมาทำลายอาคารบ้านเรือนและเครื่องมือทำการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่โซนบ้านซาโห่ของนายทนงศักดิ์ แซ่ท่าม อยู่บ้านเลขที่ 166/7 หมู่ที่ 4 ตำบลธารน้ำทิพย์ จากการตรวจสอบพบ เครื่องตัดหญ้า 1 เครื่อง, เสาหน้าบ้าน 1 ต้น, ถ้วยชามแตก 

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตงได้ มอบหมายให้ นายศรัลย์วิชญ์ นวลเจริญ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลตาเนาะแมเราะ พร้อมด้วย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พรานป่า และ ชุด ชรบ. ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบกรณีได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เข้าไปหาของในป่าแล้วได้เจอกับโขลงช้างป่า พวกตนกับพวกจึงได้วิ่งหลบหนี ทำให้เพื่อนในกลุ่มที่ไปด้วย 1 คน พัดหลงกัน  ซึ่งหายตัวไปเป็นเวลา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 จนถึงวันที่ 6 ตุลาคม 2566 จนกระทั่งเวลา 17.30 น. ได้พบตัวผู้พัดหลงซึ่งห่างจากหลักเขตไทย มาเลเซีย ประมาณ 2 กิโลเมตรส่วน ตัวผู้พัดหลงสามารถช่วยเหลือตัวเองได้และ มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ภายหลังทราบชื่อ คือ นายจเร สันติเพชร อายุ 44 ปี

และในวันนี้ได้รับแจ้งว่ามีช้างป่าบุกทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นอีกโขลงหนึ่งโดยสาเหตุมาจากที่ในปัจจุบันพื้นที่ป่าอนุรักษ์หลายแห่งที่เป็นถิ่นอาศัยของช้างป่าในประเทศเพื่อนบ้าน  เริ่มขาดแคลนพืชอาหาร แหล่งน้ำ พื้นที่เป็นภูเขา และมีความลาดชันสูง ทำให้สภาพถิ่นอาศัยที่เหมาะสมของช้างป่ามีขนาดลดลงจากเดิม นอกจากนี้แล้วผืนป่าซึ่งเป็นถิ่นที่อาศัยของช้างป่าดังกล่าว ไม่เชื่อมโยงกัน ถูกแบ่งแยก ตัดขาดออกจากกัน  เนื่องจากการขยายตัวของชุมชน การขยายพื้นที่เกษตร การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น การก่อสร้างเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่  ที่ผ่านป่าสมบูรณ์ ของประเทศเพื่อนบ้าน  ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาช้างป่าออกมาทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านที่อาศัยใกล้ชิดตามแนวชายแดน ซึ่งกำลังกลายเป็นปัญหาที่สำคัญและเพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกปี 

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ จะเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป พร้อมทั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมวางมาตรการป้องกันไม่ให้ช้างป่าออกมาทำลายทรัพย์สินของประชาชนอีก

ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา

โทร.064-126-5593

Visitors: 344,095