สุพรรณบุรี

สุพรรณบ้านเอง....

ท่ามกลางแสงแดดแผดเผา ร้อนระอุตังแต่เช้ายันบ่ายของเดือนเมษายน พ่อค้าแม่ขายกำลังวุ่นกับการขายของ ในตลาดห้องแถวริมแม่น้ำท่าจีน วันนั้นเนืองแน่นด้วยลูกค้ามาจับจ่ายซื้อของ บ้างก็มากับรถโดยสาร บ้างก็นั่งเรือหางยาว ทันใดก็มีเสียงประกาศลงมาจากหอคอยกลางตลาดอย่างตื่นตระหนกว่า พวกโจรมาปล้นแล้ว 

ทุกคนรีบปิดร้านระวังตัวด้วย ไม่นานกลุ่มชายฉกรรจ์ใบหน้าเหี้ยมเกรียมก็มาพร้อมอาวุธครบมือควบม้ามาหยุดหน้าตลาดแล้วลงมือปล้นทันที พร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่ แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากว่า 50 ปีแล้ว แต่สำหรับชาวตลาดเก้าห้อง อ.บางปลาม้าจ.สุพรรณบุรี ยังจำเหุตการณ์ได้เสมอ ไม่มีวันลืม ทุกวันนี้ตลาดเก้าห้อง ตลาดที่บรรดาขุนโจรในพื้นที่ภาคกลางมักจะมาปล้นเป็นประจำจนต้องสร้างหอดูโจรไว้กลางตลาดนั้น  บรรยากาศเงียบเหงา มีร้านค้าหร็อมแหร็มเหลืออยู่เพียงไม่กี่ร้าน ส่วนใหญ่เป็นขนมเปี๋ยะร้านกาแฟ ร้านขายของชำแบบดั่งเดิมและร้านขายของฝาก เช่น ขนม ของขบเคี้ยว  เราเดินชมตลาดโบราณแห่งนี้ จากซอยหนึ่งออกสู่ซอยหนึ่ง พบว่าพื้นที่กว้างขวาง ห้องแถวหลายแห่งถูกปล่อยร้าง ในอดีตถือว่าเป็นแหล่งซื้อขายสินค้าขนาดใหญ่เลยครับ จากนั้นขึ้นชมหอดูโจร พบร่องรอยกระสุนปืนหลายแห่ง เป็นอนุสรณ์ทิ้งไว้ให้ดูเล่น จากอ.บางปลาม้าเรามุ่งหน้าสู่เมืองสุพรรณบุรี  เมืองนี้เมื่อ 30 ปีก่อน เป็นที่อิจฉาตาร้อนของผู้มาพบเห็น ถนนหนทางในเมืองสุพรรณบุรี สะอาดกว้างใหญ่ ในตัวเมืองมีถนน 4 เลน ไฟฟ้าสว่างไสว  เพราะ ได้นายบรรหาร ศิลปอาชา สส.ในพื้นที่ ดึงงบฯไปพัฒนานั่นเองส่วนตามพื้นที่ชนบทก็จะเห็นแต่โรงเรียนบรรหาร แจ่มใส ในเมืองก็มีหอคอยบรรหาร ผลงานดูจะสร้างความเจริญให้เมืองสุพรรณไม่น้อย ถือว่าเป็นจังหวัดในภาคกลางดูดีที่สุด  ถึงเมืองสุพรรณบุรี เราแวะชมอุทยานมังกรสวรรค์ ตั้งอยู่ใกล้กับศาลหลักเมือง ซึ่งก็เป็นผลงานนายบรรหารอีกเช่นเคย มังกรตัวนี้ใหญ่โตมองไกลๆเหมือนเหาะอยู่บนอากาศ ภายนอกอุทยานฯเป็นลานจอดรถ บริเวณทางเข้าอุทยานฯเป็นซุ้มประตูมีสะพานโค้งเชื่อมต่อแบบวัฒนธรรมจีน มีร้านขายของฝาก ร้านอาหาร และโรงเตี้ยมซึ่งถอดแบบมาจากโรงเตี้ยมหนังจีนกำลังภายในเลยครับ นอกจากนี้ใต้ท้องมังกร ได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมาของชาวจีนโพ้นทะเลและที่ชาวจีนที่อยู่ในประเทศไทย โดยมีทั้งหมด 7 โซน เราเพลินกับการดูวีดีทัศน์ และบอกเล่าเรื่องราวโดยผ่านรูปปั้น ทำให้เข้าใจง่ายเหมือนได้ดูหนัง ต่อจากนั้นช่วงบ่ายไปบึงฉวาก เฉลิมพระเกียรติ ที่ อ.เดิมบางนางบวช ระยะทางเกือบ 100 กิโลเมตร ในเส้นทางสุพรรณบุรี-ชัยนาท บึงฉวาก ในอดีตเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาเมื่อแม่น้ำเกิดการตื้นเขิน เลยแยกออกมาเป็นบึงมีพื้นที่ 2,700 ไร่ ต่อมาในสมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้พัฒนาบึงฉวาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวครบวงจร มีการขุดลอกบึงใหม่ มีการปลูกต้นไม้ ทำอุทยานผักพื้นบ้าน ที่มีการปลูกผักกว่า 500 ชนิดให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ศึกษา แล้วยังมีอุโมงค์ใต้น้ำ หรืออควอเรียม ขนาดใหญ่ให้สัมผัสสัตว์น้ำอย่างใกล้ชิดโดยผ่านตู้กระจก เราได้เห็นปลาทะเลจำนวนมากเวียนว่ายอยู่บนหัว และที่น่าตื่นเต้นก็คือคนดำน้ำให้อาหารปลาฉลาม ในระยะประชิด น่าหวาดเสียว และยังมีอุโมงค์ปลาน้ำจืด ได้เห็นปลาที่กำลังใกล้สูญพันธุ์ เช่น ปลาม้า ปลาเสือ ที่ บึงฉวาก เรารู้จักปลามากมาย สมแล้วที่เป็นแหล่งจัดแสดงสัตว์น้ำหลากหลายที่สุดแห่งเมืองสุพรรณบุรี...

Visitors: 344,226