กรมพัฒน์

กรมพัฒน์ จับมือ สมาคมขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ UpSkill แรงงานจบ ป.ตรี เน้นด้าน โลจิสติกส์

วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตร ธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ  โดยมีนายสมชาย บันลือเสนาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ และคณะให้การต้อนรับ ณ สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) หวังผลิตแรงงาน Gen Z ป้อนธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ ฝึกจบมีงานทำแน่นอน รับรายได้เริ่มต้น 18,000 บาท ต่อเดือน 

นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า บุคลากรโลจิสติกส์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศในยุคนี้ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ส่งผลให้มีการเปลี่ยนบทบาทในภาคแรงงานให้รองรับสถานการณ์ จึงกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในภาคบริการ อย่างภาคโลจิสติกส์ มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ทิศทางตลาดแรงงานในปัจจุบันจึงมีความต้องการบุคลากรด้านโลจิสติกส์เป็นจำนวนมาก ซึ่งนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำให้พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะฝีมือสอดรับกับความต้องการ กรมจึงร่วมกับสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ หรือ TIFFA จัดทำโครงการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์รองรับธุรกิจขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ  โดยคัดเลือกแรงงานที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เข้ารับการพัฒนาทักษะให้สอดคล้องกับการทำงานจริง สามารถทำงานได้ทันทีและการันตีการมีงานทำ อีกทั้งผู้ประกอบกิจการได้รับประโยชน์จากการเพิ่มผลิตภาพแรงงานและยกระดับฝีมือแรงงานให้มีศักยภาพสูงขึ้น สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสถานประกอบกิจการอย่างเป็นรูปธรรม

นางสาวบุปผา กล่าวต่อว่า การมาเยี่ยมชมการฝึกในครั้งนี้ ต้องการให้กำลังใจและเน้นย้ำถึงความสำคัญของแรงงานที่ต้องได้รับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงาน และเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงานกับสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานระดับปริญญาตรีที่ว่างงาน สร้างโอกาสการมีงานทำ บรรเทาปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในธุรกิจรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยในปี 2567 มีเป้าหมายร่วมกับ TIFFA จำนวน 5 รุ่น ๆ ละ 50 คน รวม 250 คน ซึ่งการฝึกอบรมครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 3  แบ่งการฝึกเป็นภาคทฤษฎีระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์  – 20 มีนาคม 2567 และภาคปฏิบัติในสถานประกอบกิจการระหว่างวันที่ 25 มีนาคม  – 20 พฤษภาคม 2567 หลังจากจบฝึกแล้วผู้ที่ผ่านการฝึกจะได้รับการบรรจุเข้าทำงานกับบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมซึ่งมีมากกว่า 300 แห่ง ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปี 2566 ได้ผลิตแรงงานไปแล้วกว่า 1,600 คน มีงานทำกว่า 80%  ในการบรรจุเข้าทำงานครั้งแรกบริษัทจะให้เงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,000 บาท  ต่อเดือน หรือถ้ามีทักษะด้านภาษาจะได้รับการพิจารณาเพิ่มให้ประมาณ 18,000 บาท ต่อเดือน

“ธุรกิจโลจิสติกส์ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะด้านการขนส่งและขนถ่ายสินค้า มีการเปิดกิจการใหม่ในด้านนี้ประมาณ 23.9% ของกิจการเปิดใหม่ทั้งหมด รองลงมากิจการด้านตัวแทนรับจัดการส่งสินค้าและตัวแทนออกของ หรือตัวแทนดำเนินพิธีการศุลกากร และการขนส่งสินค้าอื่น ๆ ทางถนน นอกจากนี้ พบว่า ในปี 2567 การลงทุนจากต่างประเทศในธุรกิจโลจิสติกส์ (ข้อมูลเมื่อ ธ.ค. 2566) มีมูลค่า 41,651.65 ล้านบาท คิดเป็น 42.77% ของการลงทุนในกลุ่มโลจิสติกส์ในประเทศไทย (อ้างอิงจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์)  ดังนั้น ธุรกิจด้านโลจิสติกส์จึงถือว่ามีทิศทางการเติบโตสูงขึ้น การเตรียมความพร้อมของแรงงานจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรองรับการขยายตัวดังกล่าว สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเข้าฝึกอบรมที่มีอายุไม่เกิน 28 ปี เป็นผู้ว่างงาน จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาใดก็ได้ สามารถสมัครเข้าอบรมในโครงการนี้ได้ โดยจะเปิดรับสมัครรุ่นถัดไปประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 นี้” นางสาวบุปผา กล่าวทิ้งท้าย

 

Visitors: 344,086