ฮัลโล เบตง

ฮัลโล เบตง(1)...ทางหลวงหมายเลข 410 ถนนสายหลักจากตัวเมืองยะลา มุ่งสู่ อ.เบตง

เช้าวันนั้น มีรถยนต์ไม่มากนัก ทำให้รถของเราวิ่งได้เร็วขึ้นหลังออกจากตัวเมืองยะลามาไม่นาน ถนนสายนี้มีการสร้างสะพานแถวเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตาร์ เพื่อย่นระยะทางให้สั้นลง โดยไม่ต้องอ้อมเขาเหมือนเมื่อก่อน

เราเลยถือโอกาสลงไปดูการก่อสร้าง สองข้างทางมีทหารถือปืนดูแลอย่างใกล้ชิด  เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายอย่างที่เคยมีมา เนื่องจากสถานการณ์พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ช่วงนี้ยังครุกครุ่น ไม่น่าวางใจ ทางหลวงหมายเลข410 มีขนาด 2 เลน คดเคี้ยว รถแล่นไปตามไหล่เขา สองข้างถูกขนาบไปด้วยป่า สวนยาง และสวนผลไม้ของชาวบ้าน  เป็นเส้นทางที่ยาวไกล140 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางค่อนวัน มาถึงเบตงในเวลา 4 โมงเย็น เบตงเป็นอำเภอตั้งอยู่กลางหุบเขา แต่มีชีวิตชีวาจากผู้คนอาศัยอยู่ ที่มีความหลากหลายเชื้อสายเผ่าพันธุ์ ทราบว่ามีคนไทยเชื้อสายมลายู่อาศัยอยู่ 50%เชียวล่ะ รองลงมาคนไทยเชื้อสายจีน 30% มีทั้งจีนกวางไส แคระ ฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว ส่วนที่เหลือเป็นชาวไทยพุทธครับ ในเบตงมีโรงแรมและสถานบันเทิงหลายแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่รอบนอก ผู้ที่มาเที่ยวส่วนใหญ่เป็นคนมาเลเซีย ซึ่งขับบิ๊กไบร์มาเอง บางครั้งก็มาเป็นหมู่คณะ มาเที่ยวแล้วก็กลับ เนื่องด้วยถนนจากมาเลย์มาเบตงสะดวกมาก เป็นทางราบ ไม่ต้องขึ้นเขาเหมือนเส้นทางยะลา มาเบตงอยากจะลิ้มรสไก่เบตง ซึ่งเขาลือกันว่าอร่อยนักหนา และหากินยาก แต่โชดไม่ดีเช้าวันนั้นร้านข้าวมันไก่เบตงหยุดขาย1วัน เลยอดทาน จึงเปลี่ยนมาทานมะกุ๊ดเต๋ อาหารจีนจากร้านดังในเบตงซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังครับ รสชาติเยี่ยมเลย น้ำชุบกลมกล่อมให้กลิ่นหอมเครื่องยาจีน มะกุ๊ดเต๋ เป็นอาหารจีนฮกเกี้ยนและแต้จิ๋ว โดยใช้ซี่โครงหมูอ่อนติดเนื้อไปตุ๋นกับสมุนไพรและเครื่องยาจีนนานหลายชั่วโมง มีเห็ดหอมเต้าหู้ผสมด้วย แม้จะเป็นอำเภอเล็กๆรายลอบด้วยภูเขา เบตง ก็มีสถานท่องเที่ยวให้ได้คลายเหงา หนึ่งในนั้นที่ไปรู้จักคือ อุโมงค์ปิยะมิตร ตั้งอยู่บนเขาที่ ต.ตะเนาะแมเราะ เป็นอุโมงค์ที่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรืออดีตกลุ่มโจรคอมมิวนิสต์มลายา(จคม.)สร้างขึ้นเป็นฐานพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา เขต2 เมื่อปี2519 ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียง การสร้างใช้กำลังคน 40-50 คน ขุดเข้าไปในภูเขาและใช้เวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้นก็แล้วเสร็จ  เรียกง่ายๆพื้นที่ย่านนี้คือพื้นที่สีแดงนั้นเอง ประตูทางเข้าอุโมงค์ปิยะมิตร ต้องก้มหัวเดินเข้าไป ภายในติดไฟสว่างจ้าตลอดแนว อุโมงค์มีความยาว 1 กิโลเมตร เป็นทางตรงและคดเคี้ยวเหมือนรูหนูแต่อากาศถ่ายเทดีหายใจสะดวก ถือว่าผู้สร้างอุโมงค์เก่งมาก สามารถสร้างที่ช่อนตัวในป่าดงพงพีได้โดยทางการมองไม่เห็น นอกจากนี้ในอุโมงค์ก็มีห้องเก็บอาวุธ ห้องประชุม วางแผนการของ ขจม.อีกด้วย ส่วนนอกอุโมงค์ปิยะมิตร ก็มีการจัดแสดงเสื้อผ้า สรรพาวุธ ตลอดทั้งเครื่องเครื่องใช้ต่างๆทำให้รู้ว่าการใช้ชีวิตกลางป่าเขาของ ขจม.ลำบาก และต้องทรหดอดทนมากทีเดียวครับ

ฮัลโล เบตง(2)...อากาศบนภูเขาในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ไม่ต่างจากภาคเหนือในฤดูหนาว มีความสดชื่น เย็นสบาย มองไปทางไหน มีแต่ป่าๆและป่าไม้เขียวขจี จึงเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้อากาศหนาวในช่วงเช้า เราแวะชมสวนดอกไม้เมืองหนาวเบตงหรือสวนหมื่นบุปผา ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านปิยะมิตร 2 ห่างจากอุโมงค์ปิยะมิตร ที่เพิ่งไปมาไม่มากเลย สวนดอกไม้เมืองหนาวเบตง เปล่งสีสวยสดใส แปลงดอกไม้ตั้งอยู่บนเนินเขา และที่ราบอย่างมีระเบียบ มีทั้งเหลือง ขาว แดง สีชมพู บางดอกพริ้วไปกับแรงลม ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ  นั่นดอกแกลดิโอลัส โน้นดอกบานไม่รู้โรย ดาวเรือง ซัลเวีย รักเร่ ซ่อนกลิ่น ฮอลลีฮ็อก  พีค็อก สร้อยทอง แอสเตอร์จีน และเสี้ยนฝรั่ง ในสวนมีกังหันลม และสะพานเชื่อมให้เดินชมโดยไม่รู้เบื่อ  ทราบว่าสวนแห่งนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 800 เมตร ถือเป็นหนึ่งในโครงการตามพระราชดำริสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  จากสวนดอกไม้เบตง ระหว่างทางแวะคลายเหมื่อยที่บ่อน้ำพุร้อนเบตง ถือเป็นน้ำพุร้อนแห่งเดียวของภาคใต้ตอนล่างที่ยังร้อนละอุ อุณหภูมิอยู่ในระดับความร้อน 80 องศา  สามารถต้มไข่สุกภายในเวลา7นาที บริเวณบ่อน้ำพุร้อน มีห้อง อาบน้ำแร่ ห้องแช่น้ำอุ่น และห้องนวดสปาไว้บริการด้วย นอกจากนี้ก็มีบ่อน้ำพุร้อนให้บุคคลทั่วไปนั่งแช่เท้าฟรี ตกเย็นไปชมโรงงานรับซื้อยางและโรงงานแปรรูปไม้ยางพาราของชาวสวนยางใน อ.เบตง จัดตั้งโดยกลุ่มชาวสวนยาง ซึ่งเขามีเทคนิคผลิตยางแผ่นได้ดีมาก สามารถรักษาคุณภาพยางได้นานอย่างไรก็ตาม ยามค่ำคืน ของ อ.เบตง มีสีสันดีครับ ร้านค้า ร้านอาหาร ถนนคนเดินมีของขายมากมาย ถูกใจนักช้อปอย่างเรา วันต่อมาเราเดินทางกลับโดยใช้เส้นทางเข้าประเทศมาเลเซีย แวะถ่ายรูป ทานข้าว ซื้อของฝากในเมืองเล็กๆของประเพื่อนบ้าน แล้ามาออกที่ด่านสะเดาจ.สงขลา  นั่งเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่ เราเลยปลอดภัยจากการเดินทางทริปนี้