สวัสดีลาวใต้

 สบายดีลาวใต้...สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติหรือวช.พาเรานั่งเครื่องไปทำข่าวที่จ.อุบลราชธานี

เสร็จจากงานข่าวก็ข้ามไปเที่ยวลาวต่อ โดยจ้างบริษัททัวร์ในเมืองอุบลฯซึ่งทำธุรกิจนำเที่ยวในลาวมาทำหน้าที่เอนเตอเทนพาพวกเราไปเที่ยวลาวแบบแขกพิเศษเหมือนคนในครอบครัวเลยครับ

ก่อนออกเดินทางเขาก็พาคณะของเรามีประมาณ 10กว่าชีวิตแวะทานอาหารเช้าที่ร้านสามชัยในตัวเมืองอุบลฯ ร้านนี้มีชื่อด้านอาหารญวน อย่างไข่กระทะของเขาเบอร์1เลยล่ะ ใส่หมูยอ กุนเชียงทำเองอร่อยเชียว แล้วยังมีข้าวต้มหมู  ต้มเลือดหมู ชากาแฟ สมกับเป็นร้านนัดพบ ของข้าราชการในจังหวัด เรามาถึงด่านช่องเม็กตอนสายแก่ ๆพนักงานบนรถรวบรวมหนังสือเดินทางยื่นให้ตม.ลาว ปั้มตราเรียบร้อยก็ข้ามไปสูดอากาศประเทศเพื่อนบ้านได้เลย ร้านค้าฝั่งลาวใกล้ช่องเม็กโกลาหลมากเลย มีของป่ามาวางขายแบกับดินเต็มไปหมดมีทั้งพืชสัตว์ พืชก็มีกล้วยไม้ป่า และต้นพืชสมุนไพรส่วนสัตว์ก็มีกระรอก กระแตกิ้งก่า จิ้งเหลน กบ เขียด เขียดทำตาแป๋วเกาะกันอยู่ในถังน้ำและหมูป่าซึ่งบางตัวดิ้นกระแด่วๆอยู่ในชะลอมไม้ไผ่ ส่งเสียงร้องอู้ดๆน้ำลายฟูมปาก ถัดไปหน่อยเป็นร้านปลอดภาษีขายสุรายาเมามีทั้งของลาวและต่างประเทศ ขากลับตั้งใจจะเอาเรสกับแบ็คไปฝากคนทางบ้าน2ขวด ระยะทางจากด่านช่องเม็กไปปากเซ 44  กิโลเมตรครับในเส้นทางหมายเลข10  บนรถมีไกด์สาวลาวคอยบรรยายพูดคุยตลอดทาง ลาวเมื่อ20ปีที่แล้วยังแร้นแค้นอยู่เลยถนนตามชนบทยังเป็นฝุ่นดิน ประเทศถูกแช่แข็งเพราะนโยบายการเมื อง อีกทั้งเจ้าหน้าที่รัฐก็คอรับชั่นสูง ประเทศจึงไม่เดินหน้า ไม่นานเราก็มาถึงสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่นข้ามแม่น้ำโขงก่อนเข้าเมืองปากเซ เป็นสะพานสวยงามพอดูความยาว1กิโลเมตรจากการช่วยเหลือของประเทศญี่ปุ่น ไกด์บอกว่าช่วงเย็นชาวลาวมักจะมาวิ่งออกกำลังกายที่สะพานหรือไม่ก็มานั่งกิมลมชมวิวดูพระอาทิตย์ตก ที่ปากเซเราพักโรงแรมจำปาสักแกรนด์ตั้งอยู่ติดแม่น้ำโขงใกล้สะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น เป็นโรงแรมหรูทีเดียวมองไกลๆเหมือนมหาวิทยาลัยในประเทศแถบยุโรปตะวันออกยามเย็นเมืองปากเซเงียบสงบดีครับ บริเวณริมโขงมีร้านอาหารร้านคาราโอเกะหลายแห่งเปิดไฟสว่างจ้าหน้าร้านมีรูปปลาแม่น้ำโขงตัวโตๆติดเป็นโลโก้เรียกลูกค้า มื้อเย็นที่โรงแรมจัดเป็นงานเลี้ยงเบาๆแต่ได้บรรยากาศแบบลาวผสมไทย มีเต้นบาสโลบและร้องคาราโอเกะในหมู่กันเอง โดยไกด์สาวลาวเต้นเป็นตัวอย่าง สนุกสนานจนงานเลิก เช้าวันใหม่คณะของเราตื่นแต่เช้าตรู่อาบน้ำแต่งตัวทานข้าวแล้วมารวมพลที่รถ เตรียมเดินทางต่อไปน้ำตกคอนพะเพ็ง ระยะทาง150กิโลเมตรติดชายแดนใต้สุดของลาว ในเส้นทางหมายเลข13 ถนนสายนี้ปูพื้นด้วยยางมะตอย บางช่วงมีหลุมมีบ่อเพราะขาดการช่อมแซมมานาน สองข้างทางก็เป็นทุ่งนาป่าเขาผ่านหมู่บ้าน วัดโรงเรียน บ้านบางหลังก็ตั้งโดดเดี่ยวอยู่กลางทุ่งบางบ้านก็เป็นทรงโบราณแบบบ้านชาวอีสานในอดีตยกพื้นสูงมีใต้ถุนให้นั่งเล่น ใกล้ๆกันมีคอกเป็ดคอกไก่ส่งเสียงระงม รถของเราแวะปั๊มน้ำมันข้างทางให้ไปทำธุระถ่ายหนักถ่ายเบา คนไม่ปวดฉี่ก็ลงไปยืดเส้นยืดสาย ปั้มน้ำมันในลาวเล็กแบบเปล่าเปลี่ยว พนักงานปั้มมีคนเดียวแต่งโซมทำทุกอย่างบริเวณหน้าปั้มมีแม่ค้านำเนื้อแดดเดียวมาเดินขายเธอบอกว่าเป็นเนื้อกวางป่า เลยหยิบดมดูกลิ่นทะแม่งๆ จึงอุดหนุนไว้เป็นกับแกล้มมื้อเย็นตลอดเส้นทางก็พบเพื่อนร่วมถนนมากหน้าหลายตา มีทั้งรถอีแต๊ก มอไซต์ และวัวควายวิ่งตัดหน้าโดยไม่บอกกล่าว 2ชั่วโมงของการเดินทางในที่สุดก็เข้าเขตน้ำตกคอนพะเพ็ง เสียงน้ำดังก้องจนถึงถนนใหญ่ ปากทางเข้าน้ำตกมีร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านกาแฟลาว ร้านขายเฝ๋อร้านขายขนมปังแท่งๆยาว รวมร้านถ่ายรูปตั้งโดดเด่นเป็นสง่ามีนายแบบใส่เสื้อลายยืนกอดอกเต๊ะท่าอยู่หน้าร้าน น้ำตกคอนพะเพ็งชาวบ้านมักจะเรียกว่าน้ำตกตาดคอนพะเพ็งเป็นอัญมณีหรือไข่ทุกแห่งเอเซียใหญ่ที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ฝรั่งที่มาเห็นยังทึ่งยกให้เป็นไนแอการ่าแห่งเอเซียสูง21เมตรครับ  เกิดจากแม่น้ำโขงไหลลงแอ่งหิน รุนแรง ในหน้าฝนจะมีละอองน้ำฟุ้งกระจายมองดูเหมือนมีหมอกลอยอยู่เหนือน้ำ เราใช้เวลาอยู่กับน้ำตกคอนพะเพ็งนาน 2ชั่วโมง ได้เสพสุขทางสายตา ได้ไอเย็นจากละอองน้ำ ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ป่า คุ้มกับเวลาที่ได้มาเยือนจริงๆพับผ่าชิ...

 

 

 

Visitors: 344,451