หัวหิน

หัวหินไม่สิ้นมนต์ขลัง...ลมเย็นพัดแผ่วเบาเข้ามาปะทะผิวกาย ท่ามกลางบรรยากาศแดด ร่มลมตกในเวลาบ่ายคล้อย  นักท่องเที่ยวชาย หญิงพากันขี่ม้าแคระ เดินเยาะๆ ไปตามชายหาด

เราได้กลิ่นอายของทะเลอันกว้างใหญ่ มีเกลียวคลื่นส่งเสียงคำรามตลอดเวลา  ภาพเหล่านี้อยู่คู่ชายหาดหัวหินมาช้านานจนเป็นเอกลักษณ์ของหัวหิน อย่างไรก็ตาม ปีนี้ถือว่าหัวหินรับภาระหนักที่สุด ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นปีที่อากาศร้อนอบอ้าว อุณหภูมิมากกว่า 42 องศา ทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาดับร้อนที่ทะเลหัวหิน บรรยากาศจึงคึกคักชายหาดพลุ่นพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างแดนและแรงงานเพื่อนบ้าน

โน้นฝรั่งสาวในชุดทูพีชเดินมาเป็นคู่ นั้นญี่ปุ่น นี่อาม่าอาหมวยชาวจีน รวมไปถึงลาว เขมร พม่า สาวโรงงานก็มาด้วย เมื่อมาถึงหัวหิน สิ่งแรกที่ทำคือถ่ายภาพตัวเองกับสถานีรถไฟหัวหินทรงโบราณหลังเก่า ส่งไลน์ลงเฟชฯไปอวดเพื่อนๆชะหน่อย สถานีรถไฟหัวหินหลังเก่า สร้างขึ้นเมื่อปี 2511  ตัวอาคารมีลักษณะเป็นพลับพลาทรงจตุรมุข เพื่อเป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครับ ถือเป็นสถานีรถไฟที่เชิดหน้าชูตาของชาว อ.หัวหิน สำหรับสถานีรถไฟหัวหินหลังใหม่ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟหัวหินเก่า 20 เมตร เปิดให้บริการแล้ว สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วง นครปฐม – ชุมพร (ช่วงหนองปลาไหล – หัวหิน) โดยสถานีรถไฟหัวหินแห่งใหม่นี้ เป็นโครงสร้างยกระดับ มีที่ทำการและที่พักคอยอยู่ชั้นล่าง ชานชาลาอยู่ชั้นบน การออกแบบยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของสถานีเดิมตามสถาปัตยกรรมวิกตอเรีย ตัวอาคารมีความสูง 3 ชั้น มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งลิฟต์และบันไดเลื่อน ดูแล้วโก้หรูทันสมัยเชียวล่ะ คนมาเยือนหัวหินทุกวันนี้มีทุกสถานะ ต่างจากสมัยก่อนจะมีแต่เจ้าขุนมูลนายนั่งรถไฟจึก ๆจักๆ มาเที่ยวหัวหิน ทำให้หัวหินมีมนต์ขลัง ไม่รู้ลืม

 จากสถานนีรถไฟก็ไปแสดงความภักดิ์ดีแด่พระราชาที่อุทยานราชภักดิ์ ด้วยการกราบไหว้ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ เป็นรูปหล่อสำริดขนาด 13.9 เมตร มองดูสวยงาม น่าเกรงขาม ที่หัวหินอาหารทะเลอร่อย เพราะวัตถุดิบสด ใหม่ ตัวเป็น ๆ เลยแวะทานที่ร้านอาหารย่านหมู่บ้านชาวประมงหัวหิน เสร็จจากนั้นไปเลาะถนนคนเดิน ซื้อเครื่องประดับจากหอยไปเป็นของฝาก รุ่งเช้าได้อำลาหัวหินไปอย่างแฮปปี้....