นั่งช้างเทียวทะเลแหวก

คอลัมน์"เที่ยวท่อง ล่องสบาย"

โดยนายวรพจน์ เที่ยงตรงและสถาบันวิจัยแห่งชาติหรือวช.

และสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งรวมถึงนายกนกพงษ์ มะลิซ้อนจากวิทยุกทม.และเป็นอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของวช.ยุคนายแพทย์สุทธิพร จิตรมิตรภาพร่วมเดินทางไปด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานสุดขีดกับการเหยียบทรายและชายหาดของทะเลแหวกช่องน้ำทะเลลดที่มีความยาวถึง3เกาะดังของที่นั่นจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยว"อันซีน"เบอร์ต้นๆของไทยและของโลกเลยทีเดียว โดยเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเมื่อปี53แต่่ความมันส์และความสุขที่ได้อยู่กับ"ทะเลแหวก"จังหวัดกระบี่เหมือนเพิ่งได้พบเห็นชั่วโมงที่ผ่านมาหมาดๆ..โฮ

 

นั่งช้าง-เที่ยวทะเลแหวก...

จังหวัดที่มีทัศนียภาพสวยงาม เต็มไปด้วยเกาะแก่งรูปร่างประหลาดกระจัดกระจายในท้องทะเลอันดามัน และมีนักท่องเที่ยวฝรั่งชอบปีนป่ายตามผาหิน ทำให้คิดถึง จ.กระบี่ ครับ 

กระบี่ เป็นเมืองไม่ใหญ่มาก  บรรยากาศเงียบสงบ เศรษฐกิจรื่นไหล เงินสะพัดดีมาก เรียกว่ารายได้จากการท่องเที่ยวน้องๆเกาะภูเก็ตและเกาะสมุยเลยแหละ ตัวเมืองกระบี่ มีแม่น้ำกระบี่ไหลผ่าน มีความยาวเพียง 5 กิโลเมตร  มีถนนเลียบแม่น้ำ มีร้านค้า อาคารพาณิชย์ตั้งอยู่เรียงรายเป็นที่จับจ่ายซื้อของ จำได้ว่าเราไปกระบี่คราวนั้นเมื่อปี 53 ในยุคมือถือยังไม่มีเฟสบุ๊ค และเล่นไลน์ สิ่งที่พอติดต่อสื่อสารถึงกันได้มีเพียงฮัลโลโทร.หากัน แล้วก็ถ่ายรูปเท่านั้น ไปกระบี่เราเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปปาลม์น้ำมันของชุมชน โดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.)ให้การสนับสนุนทางด้านวิชาการ เสร็จจากดูงาน ก็ไปพักผ่อนที่อ่าวนาง  ย่านท่องเที่ยวสำคัญของ จ.กระบี่ ที่นี่มีร้านอาหาร โรงแรม บ้านพัก รีสอร์ท ผับ บาร์ ร้านนวดสปา สถานที่ช้อปปิ้ง ทัวร์ป่าฯลฯกลางคืนมีไฟแสงสี ดึงดูดผู้คนให้ออกมาเดินเที่ยว จับจ่ายซื้อของ ส่วนคณะของเราก็สนุกกับงานเลี้ยงคาราโอเกะ ไปจนถึงเที่ยงคืน  กระบี่ มีรถโดยสารคอกหมูน่ารักเชียวทำด้วยไม้ เหมือนรถโดยสารโบราณ ออริจินัลสุดๆ ทราบว่ามีเกือบทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ แล่นระหว่างอำเภอหมู่บ้าน เหตุที่ใช่รถแบบนี้เพราะไม่ขึ้นสนิม และพังง่ายครับ  ที่กระบี่มีกิจกรรมท่องมากมาย ซุกอยู่ตามป่าเขาและชายหาด มีทั้งแบบโลดโผน ผจญภัย โหด มันส์ ฮา เช่น การปีนผา โหนสลิง เดินป่า เป็นกิจกรรมที่ฝรั่งต่างชาติชอบมาก แล้วก็มีกิจกรรมแบบเบาๆให้ความเพลิดเพลิน เช่น การนั่งช้าง พายเรือพายัคไปตามกระแสน้ำ อันเงียบสงบ ในป่าชายเลน และเพื่อให้เหมาะสมกับวัยของเรา เช้าวันต่อมา เราก็พาคณะนั่งเรือสปีทโบ๊ทไปเที่ยวทะเลแหวกในทะเลกระบี่ จากท่าเรืออ่าวนางใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีก็มาถึง ระหว่างทางได้เห็นเกาะปอดะ มีนักท่องเที่ยวกำลังดำน้ำดูปะการังรอบเกาะ ผ่านเกาะไก่ลักษณะของเกาะคล้ายหัวไก่ จากนั้นเรือก็พาเรามาจอดชมทะเลแหวกที่เกาะทับ ทะเลแหวกเป็นหาดทรายเล็กๆยาวเชื่อมต่อถึงกัน ระหว่าง 3 เกาะ ประกอบด้วยเกาะทับ เกาะหม้อและเกาะไก่ จะเกิดขึ้นในช่วงน้ำทะเลลดลง ทำให้พื้นทรายโผ่ลขึ้นมากลายเป็นทางเดินเชื่อมถึงกันได้ ถือเป็นอันชีนของไทยแลนด์ โดยบริเวณทะเลแหวกเราได้ปลดปล่อยอารมณ์สุดๆจนลืมแก่ ทั้งกระโดดโลดเต้น และเกลือกกลิ้งถ่ายรูปไปกับผืนทราย ภายใต้เสียงคลื่น สายลม แสงแดดสร้างความหมั่นไส้ให้กับผู้คนที่เดินทางมาเที่ยวชม เหอะๆๆ  จากทะเลแหวก ขากลับเราแวะเล่นน้ำที่หาดไร่เลย์  หาดนี้เสน่ห์อยู่ที่มีต้นไม้และหน้าผาเป็นกำแพงอยู่ด้านหลังชายหาด เป็นที่แสดงพละกำลังของนักปีนผา ถัดจากหาดไร่เลย์ก็เป็นถ้ำพระนาง ในถ้ำมีหินงอกหินย้อยและศาลพระนางให้เราได้สักการะขอพร  น้ำทะเลที่หาดไร่เลย์ เขียวใสสีมรกตคณะของเราตักตวงความสุขจากการเล่นน้ำ้อย่างเต็มอิ่ม ก่อนจะนั่งเรือเข้าฝั่งแวะทานข้าวเที่ยงที่อ่าวนาง เมื่อหนังท้องตึงตกบ่ายเราก็ไปนั่งช้างชมน้ำตก ที่แคมป์คนเลี้ยงช้างในพื้นที่อ่าวนาง เป็นแคมป์ตั้งอยู่กลางป่าเขา มีลำธารไหลผ่าน ช้างที่นี่ส่วนใหญ่เป็นช้างที่มาจาก จ.สุรินทร์ และจากภาคเหนือ ช้างทุกตัวรูปร่างอ้วนท้วน สมบูรณ์ เพราะได้กินอาหารเต็มอิ่มจากผู้ใจบุญ และนักท่องเที่ยวหยิบยื่นให้ การนั่งช้างชมธรรมชาติให้ความเพลิดเพลินดีครับ โดยช้างได้พาไปตามลำธารที่มีน้ำไหล ทำให้ได้ยินเสียงน้ำตก นกป่า ร้องทักทายตลอดทางเลยล่ะ...

Visitors: 344,496